ทำไมถึงห้ามยืนบนปะการัง

มีนักท่องเที่ยวหลายท่านถามผมว่า ทำไมถึงห้ามหยียบหรือยืนบนปะการัง สาเหตุก็คือ ถ้าเราไปยืนบนปะการังจะทำให้ปะการังตายหรืออาจหักได้เนื่องด้วย ปะการังจะกินอาหารที่เกาะอยู่ตามปะการัง เมื่อมีนักท่องเที่ยวไปเหยียบเข้าก็จะเต๊ะเอาอาหารออกและทำให้ปะการังเสียหาย เมื่อปะการังไม่มีอาหารก็จะตายในที่สุดครับ โดยเฉพาะพวกปะการังโขด และปะการังสมอง พวกนี้จะมีลักษณะคล้ายหิน นักท่องเที่ยวบางท่านอาจคิดว่าเป็นหินแล้วไปเหยียบได้ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นหินหรือปะการังก็พยายามอย่าไปยืนครับเพราะส่วนมากหินพวกนี้ก็จะคม อาจจะทำให้เกิดบาดแผล และอาจจะเจอหอยเม่นที่เกาะอยู่ตามปะการังตำได้ ปะการังโขดถ้าเราไปเหยียบจะไม่หัก แต่จะหัวจะล้านครับ คือส่วนหัวของปะการังจะไม่มีปะการังเกาะอยู่ พวกที่ไปยืนแล้วหักก็จะเป็นพวกปะการังเขากวาง ปะการังผักกาด ปะการังพวกนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการเจริญเติบโตช้ามาก ปีหนึ่งจะขึ้นมาประมาณ 1-2 เซนติเมตร ยังไงก็ ฝากถึงนักท่องเที่ยวที่จะมาดำน้ำกันที่เกาะทะลุอย่าไปยืนหรือเหยียบบนปะการังโดยไม่จำเป็นน่ะครับ

ข้อควรปฏิบัติเพื่อไม่ให้เหยียบปะการัง
1. สวมเสื้อชูชีพทุกครั้งก่อนลงดำน้ำเพื่อเวลาเราเหนื่อยจะได้ไม่ไปยืนพักบนปะการัง
2. ทุกครั้งก่อนหย่อนขาลงน้ำ (ทำตัวแนวตั่งขณะใส่ชูชีพ) ให้มองใต้น้ำก่อนน่ะครับว่าอยู่ในระดับน้ำที่ลึกไหม ถ้าตื้นอาจจะไปเต๊ะโดนหอยเม่นหรือปะการังได้
3. เวลาดำน้ำให้มอง 45 องศา กับระดับพื้นทราย พยายามอย่าก้มหน้าอย่างเดียว จะช่วยไม่ให้เราไปว่ายชนนักท่องเที่ยวท่านอื่นและปะการัง
4. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับปะการังและการดำน้ำตื้นอย่างถูกต้องก่อนมาดำน้ำ
5. ถ้าจำเป็นต้องยืนบนปะการงจริงๆ ให้เลือกปะการังที่แข็งแรงเช่น ปะการัง โขด
6. ควรฝึกลอยตัวและดำน้ำในที่ๆมีระดับน้ำลึกก่อน แล้วค่อยไปดำน้ำระดับน้ำที่ตื้นขึ้น